1.วัดพระนอน
ที่อยู่ : 39 ต.ในเวียง 54000 ถนนพระนอนเหนือ อ.เมืองแพร่, แพร่
พิกัดลิ้งค์ : วัดพระนอน
ประวัติความเป็นมา
วัดพระนอน เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองเก่าของเมืองแพร่ มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี พบตำนานวัดพระนอนจากใบลาน ซึ่งได้บันทึกเกี่ยวกับวัดพระนอนไว้ว่า วัดพระนอนสร้างโดย เจ้าพระยาชัยชนะสงครามและพระนางเจ้าอู่ทองศรีพิมพาเมื่อ จ.ศ.236 แต่เดิมนั้นวัดนี้มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ คือพระนอนซึ่งองค์จริงนั้นเป็นหินยาวขนาดหกศอก ต่อมาเจ้าปู่ท้าวคำ ซึ่งเป็นพระอัยกาของเจ้าพระยาชัยชนะสงคราม เห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงสั่งให้สร้างพระนอนองค์ใหญ่ครอบองค์เดิมไว้ และช่วยกันตกแต่งพระพุทธรูปนอนองค์ใหม่ให้สวยงาม พอดีมีกองทัพพม่ามารุกรานเมืองโกศัย ชาวเมืองตื่นกลัวพากันอพยพหลบลี้ตามป่าเขา โดยยังมิทันได้ฉลองพระพุทธรูปนอน เจ้าพระยาชัยชนะสงครามเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงตรัสสั่งมเหสีว่า ดูกร เจ้าพิมพาศึกมาถึงบ้านถึงเมืองแล้ว ความแตกตื่นย่อมมีดังนี้ ขอให้สร้างให้เสร็จแล้วทำบุญวันรุ่งขึ้นของวันใหม่ แล้วเจ้าชัยชนะสงครามก็ออกศึกและสวรรคตในสนามรบ น้องชื่อท้าวยาสิทธิ์แสนหาญ ออกรบสู้พม่ากายสาบสูญ นางพิมพาจึงได้ลงมือสร้างวัดพระนอนและเจดีย์ขึ้น แล้วจารึกในแผ่นทองคำเป็นตัวหนังสือพื้นเมืองเหนือว่า วัดพระนอนนี้ให้มีการนมัสการไหว้สา ในเดือนเจ็ดใต้เดือนเก้าเหนือขึ้นสิบห้าค่ำ ดังนั้น วัดพระนอนจะมีงานในเวลาดังกล่าวทุกปี เมื่อนครโกศัยไม่มีเจ้าเมืองปกครอง วัดพระนอนจึงถูกละทิ้งเป็นวัดร้างเป็นเวลานานเท่าใดไม่ปรากฏ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นคลุมบริเวณวัด มีเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าผักหละหรือผักชะอมขึ้นปกคลุมพระนอนเป็นเวลานาน จนบริเวณนั้นกลายเป็นป่า ต่อมามีพ่อค้าต่างเมืองเดินทางมาค้างแรมบริเวณดังกล่าวเห็นผักหละขึ้นงามดี จึงเอาไปเป็นอาหารและได้พบก้อนอิฐอยู่ทั่วไป พวกพ่อค้าจึงสงสัยว่าเป็นวัดร้างและจึงนำความไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านต่างแตกตื่นและพากันไปหักล้างถางพง พบต้นไม้ใหญ่เป็นต้นมะม่วงขึ้นปกคลุมพระนอนคล้ายกับร่ม ชาวบ้านเกิดศรัทธาจึงช่วยกันบูรณะซ่อมแวมให้สวยงามและแข็งแรง และได้ตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า “วัดม่วงคำ” และในการบูรณะครั้งนั้นได้พบแผ่นทองคำจารึกของพระนางพิมพา จึงได้รู้ว่าวัดม่วงคำนั้นแต่เดิมคือวัดพระนอน และสันนิษฐานว่า วัดพระนอนนี้ได้สร้างสำเร็จในเดือนเก้าเหนือขึ้นสิบห้าค่ำ ทั้งนี้โดยถือเอาคำจารึกในแผ่นทองคำเป็นหลัก “วัดพระนอนแต่ก่อนเก่ากาล มีแต่นานเนื่องมาน่านับถือ มีประวัติสืบเล่าเขาเลื่องลือ ว่าเคยชื่อ “ม่วงคำ” จำมานาน อนุชนรุ่นหลังรับฟังไว้ จงภูมิใจซึ้งคุรค่ามหาศาล มรดกตกทอดตลอดกาล อยู่คู่บ้านเมืองแพร่แต่นี้เทอญ” วัดพระนอน เป็นวัดที่มีการสร้างด้วยศิลปะแบบผสมผสานถึงสามยุค คือ เชียงแสน สุโขทัย และอยุธยาตอนปลายอุโบสถสร้างตามแบบสมัยเชียงแสน ไม่มีการเจาะหน้าต่าง แต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้าบันเป็นลวดลายแบบอยุธยาตอนปลาย ผูกเป็นลายก้านขดและมีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถ แต่ตกแต่งบริเวณชายคาเป็นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาคบริเวรหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 9 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์เจดีย์ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีพระพุทธรูปอยู่ 4 ด้านสร้างพร้อมกับพระนอน ชื่อพระธาตุสิงหอุตรนคร
2.วัดพระธาตุสุโทน
ที่อยู่ : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (เด่นชัย-ลำปาง) ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่
พิกัดลิ่งค์ : วัดพระธาตุสุโทน
ประวัติความเป็นมา
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม เป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่บนถนนสายแพร่-ลำปาง ช่วงอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มีจุดเด่นคือเป็นวัดที่รวบรวมศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภาพจิตรกรรมบนฝาผนังระเบียงคตเป็นเรื่องราวของชาดกพื้นบ้านและภาพพุทธประวัติ ในบริเวณวัดมีเจดีย์ทรงล้านนากว่า 30 องค์ ด้านหน้าบันไดทางขึ้นทิศตะวันออกมีรูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่ มีอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทรงล้านนา ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของล้านนาและเมืองแพร่ จัดแสดงเครื่องใช้ อาวุธของนักรบโบราณ รวมทั้งภาพถ่ายของเจ้านายฝ่ายเหนือและภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในล้านนา ปัจจุบันวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี มีครูบาน้อยหรือพระอธิการมนตรี ธมฺมเมธี เป็นเจ้าอาวาส
3.วัดพระธาตุช่อแฮ
ที่อยู่ : หมู่ 11 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
พิกัดลิ้งค์ : วัดพระธาตุช่อแฮ
ประวัติความเป็นมา
พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดปีขาล ความเชื่อพระธาตุประจำปีเกิดทางล้านนา ระบุไว้ว่า พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ เป็นพระธาตุประจำปีขาล หรือ ปีเสือ ตามตำนานเล่าว่า สร้างในสมัยพระมหาธรรมราชาธิราช (ลิไท) โดยขุนลัวะอ้ายก๊อม และมีความเชื่อว่าพระธาตุช่อแฮเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน จังหวัดแพร่ เป็นสถานที่ที่สำคัญแก่การมาสักการะ เมื่อได้มาเยือนเมืองแพร่
4.วัดพงษ์สุนันท์
ที่อยู่ : ถนนคำลือ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
พิกัดลิ้งค์ : วัดพงษ์สุนันท์
ประวัติความเป็นมา
วัดพงษ์สุนันท์ เป็นวัดในเขตกำแพงเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ที่บ้านพงษ์สุนันท์ ตำบลในเวียง ชื่อเดิมว่า วัดปงสนุก เดิมเป็นวัดร้าง ทางทิศใต้ของวัดมีสระน้ำและมีรูปปั้นเต่า โดยมีตำนานเล่าว่า นางคำพวนชาวพม่าได้ลงไปในสระเพราะอยากได้เต่าและจมน้ำตาย เพื่อนของนางชื่อส่างตาดจึงสร้างเจดีย์และรูปเต่าสี่ตัวรอบเจดีย์เพื่อระลึกถึงเพื่อน ในพ.ศ. 2472 พ่อเจ้าบุรีศรีปัญญาได้บูรณะวิหาร แต่ต่อมาถูกไฟไหม้และน้ำท่วมจนเสียหาย พญาบุรีรัตน์จึงได้บูรณะใหม่โดยมีหลวงพงษ์พิบูลย์และเจ้าสุนันตาเป็นศรัทธาหลักใน พ.ศ. 2477 วัดนี้จึงได้ชื่อว่าวัดพงษ์สุนันท์ ได้วิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2499 ภายในวัดมีพระนอนกลางแจ้งริมกำแพงเป็นเอกลักษณ์ของวัด
5.วัดจอมสวรรค์
ที่อยู่ : ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
พิกัดลิ้งค์ : วัดจอมสวรรค์
ประวัติความเป็นมา
วัดจอมสวรรค์ หรือวัดจองเหนือ เป็นวัดโบราณในจังหวัดแพร่ สร้างโดยชาวพม่าและไทใหญ่ อยู่ในป่ารกครึ้ม ต่อมาพ่อเฒ่ากันตีและนายฮ้อยคำ พ่อค้าชาวไทใหญ่ได้เดินทางมาพบและเกิดความเลื่อมใสจึงได้บูรณะ โดยได้รับการสนับสนุนจากชาวไทใหญ่ในจังหวัดแพร่ และได้อพยพมาอยู่เป็นหมู่บ้านเรียกว่าหมู่บ้านใหม่ ในสมัยเจ้าหลวงพิมพิสารเมื่อ พ.ศ. 2415 นายจองนั่นตาเป็นผู้เข้ามาสร้างเพิ่มเติมจนสำเร็จ และสร้างเจดีย์แบบพม่าไว้